ลูกหมาโดนเจ้าของทิ้งที่สนามบิน ชีวิตพลิกผันก่อนเจอนายใหม่ ได้อยู่บ้านกัปตันไปเลย
เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยเรื่องราวของลูกสุนัขตัวหนึ่ง ซึ่งถูกเจ้าของปล่อยทิ้งไว้ที่สนามบิน จนสุ่มเสี่ยงที่จะต้องถูกหลงลืมหรือจบชีวิตลง ก่อนจะได้รับความช่วยเหลืออย่างอบอุ่น จนถึงวันที่ได้เข้าสู่อ้อมกอดจากเจ้าของคนใหม่
ย้อนไปเดือนกันยายน 2565 มีผู้โดยสารเดินทางจากจีน เข้ามาที่สนามบินซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ พร้อมลูกสุนัข พันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดผสม วัยเพียง 12 สัปดาห์ ซึ่งตามกฎของศูนย์ควบคุมโรคจะไม่อนุญาตให้นำสัตว์ที่มาจากประเทศเสี่ยงต่อโรคพิษสุนัขบ้าเข้าสู่สหรัฐฯ และเนื่องจากผู้โดยสารรายนี้ไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง เจ้าตัวจึงตัดสินใจเดินทางต่อไปรัฐอื่นเพียงคนเดียว ทิ้งภาระการตัดสินใจให้กับ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส สายการบินชื่อดัง เป็นผู้กำหนดอนาคตของลูกสุนัขตัวนี้แทน
ทางเลือกที่ศูนย์ควบคุมโรคเสนอกับยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส อย่างแรกคือ ส่งสุนัขตัวนี้กลับไปที่ต้นทางคือประเทศจีน ซึ่งอาจทำให้มันจะถูกกำจัดลงที่ปลายทาง หรือ ปล่อยสุนัขไว้ที่สนามบินแห่งนี้ แต่พวกเขาตัดสินใจที่ต่างออกไป คือประสานให้สุนัขได้ไปกักตัวอยู่ที่สนามบินลอสแอนเจลิส รวมทั้งหาทางแก้ไขเพื่อหาทางให้มันสามารถอยู่ในสหรัฐฯ พร้อมกับตัวชื่อน้องหมาตัวนี้ว่า โพลาริส (Polaris) ตามชื่อชั้นธุรกิจของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส
หลังจากกักตัวครบ 3 เดือนตามกำหนด โพลาริส ก็ผ่านเกณฑ์ต่าง ๆ ทำให้มันสามารถมีเจ้าของเลี้ยงในสหรัฐฯ ได้แล้ว ก่อนจะถูกปล่อยจากโซนกักตัวที่แอลเอ กลับมาที่ซานฟรานซิสโก เพื่อให้ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และสถานสงเคราะห์สัตว์ SF SPCA เป็นเจ้าภาพในการหาเจ้าของใหม่ต่อไป โดยจะเน้นไปที่สมาชิกในองค์กรที่ต่างผูกพันกับเจ้าโพลาริส ซึ่งมีผู้ขออาสาเป็นเจ้าของใหม่ให้เจ้าหมาน้อยตัวนี้กว่า 30 ราย
และแล้ว เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา โพลาริส ก็ได้เจ้าของใหม่เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเขานั้นก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็น กัปตันวิลเลียม เดล กัปตันของสายการบิน ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส โดยงานนี้ทางสายการบินยังเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงส่งมอบให้กับเจ้าของใหม่ โดยเจ้า โพลาริส มาในชุดซานต้าสุดน่ารัก ก่อนจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ทันเวลาช่วงฉลองวันคริสต์มาสอีกด้วย
เดล เปิดใจว่า โพลาริส เป็นสุนัขตัวแรกของครอบครัว เรื่องราวของมันน่าทึ่งมาก ๆ และก็นึกไม่ถึงเลยว่า พวกเราจะโชคดีได้รับเลือกให้เป็นเจ้าของมันจริง ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก Washington Post, Dailymail