Clayton M. Christensen ผู้มีอิทธิพลทางความคิดกับนักธุรกิจ นักวิชาการ มากที่สุดคนหนึ่งของโลก ได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2020 ในขณะที่กำลังทำการบำบัดโรคมะเร็ง ยังไม่ได้มีโอกาสอ่านหนังสือหมดทุกเล่ม แต่มีอยู่หนึ่งเล่มที่เคยอ่านแล้วชอบมากๆ ใช้เวลาอ่านไม่นาน แถมยังได้อะไรมากมายเหมือนได้อ่านหนังสือหลายๆ เล่ม คือ

How will you measure your life?

หนังสือเล่มนี้มีเพียง 3 ปริศนา แต่ต้องใช้เวลาตอบทั้งชีวิต -ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา

มีเทคโนโลยี อยู่ 2 ชนิดที่ส่งผลต่อธุรกิจ

1.Sustaining technology เทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจพัฒนาตนเองไปอย่างสม่ำเสมอตลอดเวลา

2. Disruptive technology เทคโนโลยีที่อุบัติขึ้นมาแล้วทำให้โฉมหน้าของอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่เคยดำเนินมาต้องเปลี่ยนไป

จึงเป็นที่มาของ Distuptive Innovation ที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า "ดิสรัปชั่น"

ดิสรัปชั่นตีความหมายเป็นได้ทั้ง การทำลาย และการสร้างสิ่งใหม่

ปัญญา
เวลาโดนถามให้เปลี่ยนจากคำว่า "ควรจะคิดอะไร" เป็น "ควรจะคิดอย่างไร"

คำถามสำคัญที่ Christensen ถามลูกศิษย์ในคาบสุดท้าย

อะไรคือทฤษฎีการจัดการที่ดี
และทฤษฏีเหล่านี้
ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร

อะไรนำพาให้บริษัทมาถึงสถานการณ์นี้
และการลงมือปฎิบัติอย่างไรจะทำให้บริษัทเกิดผลสัมฤทธิ์ได้ตามที่ต้องการ

เราจะมั่นใจอย่างไรว่า
1.เราจะมีความสุขกับอาชีพการงาน
จากทฤษฎีของ Frederick Herzberg
แรงผลักดันในชีวิตเราไม่ได้มาจากเงินทอง หากมาจาก

โอกาสที่จะได้เรียนรู้ศึกษา
ความรับผิดชอบที่งอกงามตามมา
อุทิศตนเพื่อผองชนทั่วหล้า
ปวงประชาชื่นชมในผลงาน

2.ความสัมพันธ์กับคู่ชีวิต ครอบครัวจะเป็นต้นธารแห่งความสุขมิขาดสาย
เป้าหมายของชีวิตขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้ เวลา ปัญญา และพลังงาน ในทิศทางใด

การเลือกงานและความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพ
เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่จะพาตัวเองไปสู่เป้าหมาย
แต่หากปราศจากเป้าหมายชีวิตมนุษย์ย่อมกลวงเปล่า

การตัดสินใจว่าจะจัดสรร เวลา พลังงาน และปัญญา ของเราไปกับสิ่งใด
คือหัวใจสูงสุดของกลยุทธ์แห่งชีวิต เพราะ 3 สิ่งนี้ในชีวิตเป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด

พ่อแม่ควรใช้เวลากับลูกหลายตั้งแต่เยาว์วัย

ในมุมมองของเศรษฐศาสตร์ต้นทุนส่วนเพิ่มจะเริ่มจาก "แค่หนี้หนเดียว" มันจะดึงดูดให้คุณถลำไปไกลจนคุณแทบไม่เคยคิดเลยว่า มันจะนำพาชีวิตของคุณไปสู่จุดไหน
และต้นทุนรวมทั้งหมด อันเป็นผลมาจากการตัดสินใจผิดที่จะตามมาเป็นหางว่าวคืออะไร

ถ้าคุณยอมปล่อยให้ "เพียงคร้งนี้เท่านั้น" คุณจะต้องค้นให้พบว่า คุณจะยืนหยัดเพื่อหลักการไหน แล้วขีดเส้นให้ชัดลงไป ว่านี่คือเขตปลอดภัยของชีวิต

ความอ่อนน้อมถ่อมตน
คุณลักษณะของบุคคลที่มีความนับถือในตนเองสูง รู้จักตนเองดีว่าตนเองเป็นใคร และรุ้สึกพึงพอใจกับความเป็นไปของตนเองเช่นนั้น

ความอ่อนน้อมถ่อมตนเกิดจากการเห็นศักดิ์ศรีและคุณค่าของผู้อื่น

คุณจะอ่อนน้อมถ่อมตนได้ก็ต่อเมื่อคุณมีความรู้สึกที่ดีกับตนเองอย่างจริงแท้ และคุณอยากช่วยให้ผู้คนที่อยู่รอบข้าง ได้เข้าใจถึงความรู้สึกนั้น

วิธีคิดสำคัญกว่าคำตอบสำฤทธิ์
ถ้าเราเข้าใจแก่นแท้ของปัญญาและทฤษฎีเหล่านั้น เราจะพบเหลี่ยมมุมมี่จะประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ ทั้งที่เรียบง่ายและซับซ้อน ช่วยให้เราตรวจสอบย้อนหลัง กลับความคิดและผลิตทางเลือกที่น่าสนใจ กระทั่งสร้างความเป็นไปได้ใหม่ให้กับเรา

ในโลกยุคใหม่ เราได้ Outsource กิจกรรมอันเป็นหัวใจของมนุษย์ไปให้กับมนุษย์ผู้อื่น หุ่นยนต์ กลไก และเอไอ จนกระทั่งวันหนึ่ง แม้กระทั่งเราเอง ก็ไม่อาจสำคัญกับลูกอีกต่อไป เมื่อลูกต้องการใช้เวลาส่วนใหญ่กับเกม โทรศัพท์ กับออนไลน์ ลูกได้ Outsource เรา ออกไปจากชีวิตเกือบสมบูรณ์ แล้วคุณจะยังมีความหมายใด...

บางอย่างไม่สามารถ Outsource ได้
นั่นคือหัวใจของโลกธุรกิจ
นั่นคือหัวใจของชีวิต

งานหลายอย่างมิอาจรอได้
การเลี้ยงดูบุตรหลานก็เช่นกัน
เวลาเช่นนั้นจะไม่หวนกลับมา
ไม่ว่าคุณจะจ่ายราคาเท่าใด

ชีวิต
การรู้จักกัน know who ดูจะมีความสำคัญมากกว่า know how
กระทั่งบางครั้งดูจะสำคัญกว่าการรู้จักตนเอง หรือ know yourself
จำนวนไม่น้อยต้องการให้ผู้อื่นรู้จักตนเอง หรือ know me
มากยิ่งกว่าตนเองรู้จักตนเอง หรือ know myself มากมายนัก

ไม่ว่า หมื่น แสน ล้าน ของกิจการ ล้วนเกิดจากความเสี่ยงเพียงหนึ่งเท่านั้น

ชีวิตมนุษย์เราจะมีความหมายต่อบุคคลทั่วไป ก็ต่อเมื่อเราใช้ชีวิต การงาน กระทำการให้เกิดประโยชน์กับผู้อื่น

มนุษย์ส่วนใหญ่วิ่งวุ่นไขว่คว้าความสำเร็จโดยวางศูนย์กลางไว้ที่ตน แต่ถ้าเราคิดถึงผลประโยชน์ที่เราพึงสร้างให้ผู้อื่น เราจะสามารถสร้างานที่มีประโยชน์ต่อผู้คน

พระเจ้าไม่ว่าในศาสนาไหนคงไม่สนว่า เรามีเงินในบัญชีเท่าไหร่ กระทั่งเรามียอดไลค์เท่าใดในเฟซบุ๊ก ถ้าสิ่งที่เราทำล้วนเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในวงกว้าง ทำให้เขามีชีวิต การงานที่ดีขึ้น ความสำเร็จย่อมจะถูกหยิบยื่นตามมาโดยไม่ต้องแสวงหา

เราจะพบความสุขทันที เมื่อหยุดแสวงหาความสุข

3.เราจะไม่จบชีวิตอย่างเดียวดายในคุก
ความคิดที่ Christensen เห็นพ้องกับ Peter F. Drucker ปรมาจารย์ด้านการจัดการแห่งศตวรรษที่ 20 กล่าวไว้ว่า

ในสาระสุดท้ายนั้น เมื่อเราถูกท้าทายด้วยความตาย หรือถูกคุกคาม ด้วยอันตรายถึงชีวิต เราจึงจะเข้าใจลิขิต ความหมายของสิ่งเหล่านี้

และ Christensen กล่าวไว้คือ

นี่คือปัญญาที่มีคุณค่ามากกว่าทฤษฎีบริหารธุรกิจใดๆ ในโลกหล้าที่เขาได้ศึกษามา

บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่สุดยอดนักคิด (Shaper) คงได้พบพานและสนทนากันอย่างออกรสสักแห่งบนสวงสวรรค์

RIP Clayton M. Christensen

Clayton M. Christensen ศาสตราจารย์ด้านบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้เขียนหนังสือขายดีอย่าง

The Innovator's Dilemma มีเล่มแปล http://bit.ly/3aO4VO5
The Innovator's Solution https://amzn.to/38KCoY3
Disrupting Class https://amzn.to/2U89nBs

เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Innosight บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และวัตกรรม และบริษัทด้านการลงทุน Rose Park Advisors และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Clayton Christensen Institute for Disruptive Innovation

ปี 2011 และ 2013 ได้รับยกย่องให้เป็นนักคิดด้านธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดย Thinkers50

#ClaytonChristensen #HowWillYouMeasureYourLife #ปัญญาวิชาชีวิต