ช่วงนี้รู้สึกว่าร่างกายตัวเองไม่เข้าร่องเข้ารอย ด้วยนิสัยเดิมๆ ที่กลับมา ทำให้ชีวิตวันๆ หนึ่งรวนเร จนทำให้เกิดผลกระทบกับงาน คงต้องหาสักวิธีหนึ่งแหละ ที่จะทำให้ร่างกายเข้าที่เข้าทาง โดยที่ยังสามารถรักษาสมดุลระหว่าง งานและสุขภาพ ได้ดีเช่นเคย ไปอ่านเจอบทความหนึ่งเลยลองแปลมาให้อ่านกัน

เคยมั้ย? วันหนึ่งที่สิ่งที่ต้องทำมากมาย แต่รู้สึกว่าเวลาที่มีอยู่ไม่เคยพอ นอกจากตารางงานที่แน่นเอี๊ยดแล้ว สิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือการหยุดพัก แต่เราจะหยุดพักอย่างไรให้มีประโยชน์มากที่สุดเพื่อกลับมาทำงานให้ได้ดีและมากกว่าเดิมล่ะ

Robert Pozen กล่าว ถ้าหากคุณคิดจำนวนการหยุดพักเป็นชั่วโมงอย่าง 5 หรือ 12 ชั่วโมง ให้หยุดคิดไปได้เลย คำถามที่เกิดขึ้นคือ คุณใช้จำนวนเวลาที่เหมาะสมกับงานไปกี่ชั่วโมงก่อนการหยุดพัก

หยุดพักทุกๆ 75-90 นาที
ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่คุจดจ่อกับงานได้มากพอก่อนที่คุณจะหยุดพัก ผลการศึกษาพบว่าช่วงเวลานี้เป็นชั่วโมงที่ใช้ฝึกฝนดนตรีหรือจดจ่อกับคาบเรียนได้ดีที่สุด ส่งผลดีกับสมอง 2 แบบ คือ เรียนรู้ และ จดจ่อ เมื่อคุณหยุดพักไป 15 นาทีจากช่วงเวลานี้จะทำให้สมองเรียนรู้และจดจ่อได้ดีขึ้น นี่เป็นผลของสรีระวิทยาระหว่างการหยุดพัก Tony Schwartz กล่าว การทำงานแบบทำๆ หยุดๆ จะส่งผลกับการทำงานได้ดีกว่าการทำงานแบบไม่หยุดพัก ถ้าคุณสังเกตดีๆ ร่างกายมันจะส่งสัญญาณออกมาเองว่า “หยุดพักได้แล้ว” แต่เมื่อคุณทาน ชา กาแฟ หรือของหวานต่างๆ มันกลับให้ผลกลับกัน ไม่มีอะไรดีขึ้น!

หยุดพักทุกๆ 52 นาที
ผลจกการใช้แอป DeskTime แอปใช้ในการจัดการบริหารเวลา พบว่าคนที่ทำงานได้ดี มีช่วงเวลาในการหยุดพักอยู่ที่ประมาณ 52 นาที และหยุดพัก 17 นาที ใครจะไปคิดว่าคนที่ทำงานแบบนี้จะสามารถจัดการงานตนเองได้เสร็จและทำงานได้ดีกว่าการนั่งแช่ทำงานไปนานๆ และหยุดพักตามเวลาออฟฟิศ ข้อดีของการใช้กฎข้อนี้คือ คนที่ทำงานจะรู้สึกว่าตัวเองทำงานอย่างมีเป้าหมาย มีสมาธิกับสิ่งที่ทำ

หยุดพักทุกๆ 25 นาที
เทคนิค Pomodoro จะใช้เวลาทำงาน 25 นาที และหยุดพักเพียง 5 นาที เทคนิคนี้จะใช้ได้ดีกับงานที่ต้องใช้พลังจดจ่ออย่างสูง เทคนิคนี้เป็นการแก้ปัญหาจากวิธีของ DeskTime เนื่องจาก ปัจจุบันความสามารถในการรับรู้คนเราลดลง วิธีนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

วิธีไหนเหมาะกับคุณที่สุด

La.rissa Barber กล่าว โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้วสมองจะสั่งการให้เราหยุดพักมากกว่าการทำงานหาเงิน และรู้หรือไม่ว่า การหยุดพักโดยการกินขนม ชา กาแฟ ระบายปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ล้วนทำให้เรายิ่งบอบช้ำกว่าเดิม

การหยุดพักที่ดีควรจะเริ่มตั้งแต่การเริ่มต้นของวัน

ช่วงเช้า คุณอาจนั่งสมาธิ พูดคุยชิลๆ กับเพื่อนฝูง หรือตั้งเป้าหมายในแต่ละวันว่าจะทำอะไร

ช่วงกลางวัน ให้คุณใช้ชีวิตตามปกติ ช่วงเวลานี้อันตรายที่สุดเพราะพลังงานในร่างกายเริ่มถดถอยแล้ว หลังจากหยุดพัก ร่างกายจะเติมพลังงานให้คุณเอง พลังงานเหล่านั้นอาจอยู่ในรูปแบบของ การออกกำลัง เพราะร่างกายหลั่งเมตาโบลิซึมนั่นเอง หลายๆ ที่จึงสนับสนุนให้พนักงานมีเวลาออกกำลังเบาๆ ในออฟฟิศช่วงพักเบรค นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราควรออกกำลังให้ได้ได้อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป หรือคุณจะเดินไป-กลับกินข้าวก็ถือเป็นการเติมพลังงานไปในตัว

การงีบหลับสั้นๆ จะทำให้ร่างกายสดชื่น หรือบางคนที่มีปัญหาในการนอนน้อย หรือนอนไม่หลับ ก็ใช้วิธีนี้เป็นการปลุกตัวเองได้ในตอนกลางวัน

ขอให้หาเวลาหยุดพักที่ใช้ให้เจอ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น